ที่มารูป : https://upload.wikimedia.org/wikipedia/th/thumb/2/29/Digital1.jpg/300px-Digital1.jpg
จากรูปทางด้านซ้ายนั้นได้แสดงอินพุตจำนวน
n
ขา ตั้งแต่ D0 ถึง Dn ขาซึ่งใช้สำหรับเลือกข้อมูล S0 ถึง Sm และขาเอาต์พุต Y ส่วนขาของ S0 ถึง Sm ใช้สำหรับการเลือกให้อินพุตใดจากอินพุต D0 ถึง Dn ผ่านออกไปที่เอาต์พุต Y และจำนวนขาของ S นั้นก็ยังมีความสัมพันธ์กับจำนวนขาของอินพุต
D คือ เช่น ถ้ามีจำนวนอินพุตที่จะถูกเลือกจำนวน 4 อินพุต จำนวนบิตของขาสำหรับเลือกข้อมูลจะเท่ากับ 2 (22 = 4) ถ้ามีจำนวนอินพุตที่จะถูกเลือกจำนวน
8
อินพุต จำนวนบิตของขาสำหรับเลือกข้อมูลจะเท่ากับ 3 (23 = 8) เป็นต้น
ซึ่งวิธีการรวมข้อมูลจากหลายๆ จุด
แล้วส่งผ่านไปตามสายส่งเพียงสายเดียวนั้น เรียกว่า multiplex ซึ่งสามารถแบ่งได้ออกเป็น 2 รูปแบบคือ
1.การมัลติเพล็กซ์แบบแบ่งเวลา (Time Division Multiplexing: TDM) เป็นการแบ่งเวลาในการใช้สายส่งเพื่อใช้ส่งข้อมูล
เหมาะกับสัญญาณข้อมูลแบบดิจิตอล
เนื่องจากสัญญาณดิจิตอลมีช่วงเวลาที่แน่นอนของบิตแต่ละบิต
จึงทำให้สามารถมัลติเพล็กซ์แบบแบ่งเวลาให้มีความสอดคล้องกับเวลาของบิตได้ โดยอาจคิดเป็นอัตราเร็วของบิตได้คือ
สัญญาณที่มีอัตราเร็วต่ำหลายๆ
สัญญาณสามารถนำมามัลติเพล็กซ์รวมกันเป็นสัญญาณที่มีอัตราบิตสูงขึ้นได้
ซึ่งการมัลติเพล็กซ์แบบแบ่งเวลา ยังสามารถแบ่งออกเป็น
“การมัลติเพล็กซ์แบบแบ่งเวลาในแบบซิงโครนัส” และ “การมัลติเพล็กซ์แบบแบ่งเวลาในรูปแบบสถิติ”
ประเภทของการมัลติเพล็กซ์แบบแบ่งเวลา
การมัลติเพล็กซ์แบบแบ่งเวลาในรูปแบบซิงโครนัส
การมัลติเพล็กซ์แบบแบ่งเวลาในรูปแบบซิงโครนัส
(Synchronous Time Division Multiplexing: Sync TDM) Sync TDM จะอนุญาตให้ข้อมูลจากแต่ละแหล่งมาหมุนเวียนเพื่อส่งข้อมูลไปบนสายส่งข้อมูลความเร็วสูง
Sync TDM จะให้ชิ้นส่วนของข้อมูล เช่น ไบต์ข้อมูล
จากอุปกรณ์ส่งผ่านไปยังสายส่งข้อมูลความเร็วสูง
จากนั้นก็ให้อุปกรณ์ที่จะอินพุตในลำดับถัดไปส่งไบต์ข้อมูลผ่านสายส่งข้อมูลความเร็วสูงหมุนเวียนต่อไปเรื่อยๆ
หากสถานีผู้ส่งบางสถานีไม่ต้องการส่งข้อมูลในช่วงเวลาขณะนั้น
ซึ่งเรียกว่าอยู่ในสถานะ Idle มัลติเพล็กเซอร์ก็จะทำการส่งสล๊อต
(Slot) ข้อมูลของสถานีที่ Idle ผ่านสายส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูง
โดยสล๊อตดังกล่าวนี้จะเป็นสล๊อตว่าง
ซึ่งการส่งสล๊อตว่างออกไปก็เพื่อจุดประสงค์ให้คงลำดับเหมือนเดิม โดยตัวอย่างการซิงโครนัสทีดีเอ็มที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน
เช่น T-1 Multiplexing, ISDN Multiplexing และ SONET
การมัลติเพล็กซ์แบบแบ่งเวลาในรูปแบบสถิติ
การมัลติเพล็กซ์แบบแบ่งเวลาในรูปแบบสถิติ
(Statistical Time Division Multiplexing: Stat TDM) หรือ
อะซิงโครนัสทีดีเอ็ม (Asynchronous TDM) เป็นการมัลติเพล็กซ์เชิงสถิติที่ข้อมูลสามารถส่งร่วมกันบนสายในลักษณะแบบแบ่งเวลาตามความต้องการ
(On-Demand) เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียสล๊อตว่างเปล่าของสถานีที่ไม่มีการส่งข้อมูล
ดังนั้น ข้อมูลที่ส่งจะถูกส่งไปยังสายเฉพาะสถานีที่ต้องการส่งข้อมูลเท่านั้น
โดยสถานีที่ Idle จะไม่มีการส่งสล๊อตว่างเปล่าออกมาบนสายส่ง
ซึ่งในการส่งข้อมูลของแต่ละสถานีจะมีการใส่ Address ของสถานีส่งเข้าไปด้วย
ซึ่งจะทำให้ฝ่ายรับนั้นรับรู้ได้ว่า ข้อมูลที่ส่งมานั้นมาจากสถานีใด
2) การมัลติเพล็กซ์แบบแบ่งความถี่ (Frequency Division Multiplexer หรือ FDM) เป็นวิธีที่ใช้กันทั้งระบบที่มีสายและระบบคลื่นวิทยุ ซึ่งหลักการของการมัลติเพล็กซ์แบบแบ่งความถี่นี้คือ การนำสัญญาณจากแหล่งต่างๆมารวมกัน ให้อยู่ในคลื่นพาห์เดียวกันที่ความถี่ต่างๆ และสัญญาณเหล่านี้สามารถที่จะใช้เส้นทางร่วมกันได้ซึ่งต่างจากแบบแรกที่ไม่สามารถใช้ร่วมกันได้
OSI Model : Layer 2 Data Link Layer
OSI Model : Layer 2 Data Link Layer
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น